1. ระบุอาการเบื้องต้น
  2. ตอบคำถาม
  3. ผลตรวจอาการ
  1. 1
  2. 2
  3. 3

อาการปวดเจ็บ ปวดหน่วง หรือปวดบิดเป็นพัก ๆ ที่บริเวณท้องน้อย (ระดับใต้สะดือลงมาที่หัวหน่าว) ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปี (เริ่มมีประจำเดือน) ถึง 50 ปี (วัยหมดประจำเดือน)
สาเหตุที่พบบ่อย : ปวดประจำเดือน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ นิ่วท่อไต ปีกมดลูกอักเสบ ครรภ์นอกมดลูก

ควรไปพบแพทย์ ภายใน 2-3 วัน เพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม เนื่องจากอาการของคุณข้างต้นอาจเป็นสัญญาณของ เนื้องอกมดลูก, เยื่อบุมดลูกต่างที่, ปีกมดลูกอักเสบ/เยื่อบุมดลูกอักเสบ หรือโรคอื่น ๆ
หมายเหตุ
ผลตรวจอาการเบื้องต้นดังกล่าว เป็นเพียงอาการ ภาวะ หรือโรคที่พบได้บ่อยเท่านั้น เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ควรเข้ารับการตรวจอาการโดยตรงอีกครั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานพยาบาล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
เนื้องอกมดลูก
เนื้องอกมดลูก (Myoma uteri/Uterine fibroids)* เป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ไม่ใช่เนื้อร้าย (มะเร็ง) ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 25 ของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป มักพบในผู้หญิงอายุ 35-45 ปี แต่อาจพบในหญิงสาวก็ได้ 
 
เนื้องอกอาจมีขนาดต่าง ๆ กันไป อาจเป็นก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ บางชนิดโตช้า แต่บางชนิดโตเร็ว 
 
อาจเกิดอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก (ซึ่งเป็นเนื้องอกของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อล้วน ๆ เรียกว่า “Myomauteri”) ซึ่งอาจงอกเข้าไปในโพรงมดลูก หรืออยู่ที่ผนังด้านในหรือด้านนอกของมดลูก (ซึ่งเป็นเนื้องอกของเนื้อเยื่อพังผืดผสมกับเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ เรียกว่า “Uterine fibroid”) ซึ่งอาจงอกเข้าไปในช่องท้อง
 
 
* มีชื่อเรียกอื่น เช่น leiomyoma. fibromyoma
เยื่อบุมดลูกต่างที่/เอ็นโดเมทริโอซิส (ช็อกโกแลตซีสต์)
เยื่อบุที่อยู่บนผิวในโพรงมดลูก เรียกว่า เยื่อบุมดลูก (endometrium) 
 
เยื่อนี้จะงอกหนาและมีเลือดคั่ง แล้วสลายตัวเป็นเลือดประจำเดือนทุก ๆ เดือน ในผู้หญิงบางคนอาจมีเศษเยื่อบุมดลูกบางส่วนไปงอกผิดที่หรือต่างที่ เช่น ไปอยู่ในผนังกล้ามเนื้อมดลูก หรืออยู่ในรังไข่ หรือที่พบได้น้อยอาจไปงอกที่ท่อรังไข่ ช่องคลอด สำไส้ หรือตรงแผลเป็นหลังผ่าตัด เรียกว่า เยื่อบุมดลูกต่างที่ (เยื่อบุผิวมดลูกงอกผิดที่ก็เรียก) 
 
โรคนี้พบได้ประมาณร้อยละ 10-15 ของผู้หญิง อายุระหว่าง 25-44 ปี และพบมากในผู้หญิงที่ไม่มีบุตร ซึ่งพบได้ประมาณ 3-4 เท่าของผู้หญิงที่มีบุตร
 
ส่วนมากจะไม่มีอันตรายร้ายแรง ส่วนน้อยอาจรุนแรงจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
 
ภาวะนี้มักเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีบุตรยาก
 
ปีกมดลูกอักเสบ เยื่อบุมดลูกอักเสบ
ปีกมดลูกอักเสบ (salpingitis) หมายถึง การอักเสบของท่อรังไข่

เยื่อบุมดลูกอักเสบ (endometritis) หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุภายในโพรงมดลูก (โพรงมดลูกอักเสบ มดลูกอักเสบ ก็เรียก)

ทั้ง 2 โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ (15-45 ปี) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผ่านช่องคลอดเข้าไปทางปากมดลูก ขึ้นไปในโพรงมดลูก (ทำให้เยื่อบุมดลูกอักเสบ) และถ้าหากลุกลามต่อไปในท่อรังไข่และรังไข่ ก็ทำให้กลายเป็นปีกมดลูกอักเสบ (ซึ่งอาจเกิดกับปีกมดลูกทั้ง 2 ข้างหรือข้างใดข้างหนึ่ง) หากไม่รักษาเชื้ออาจแพร่กระจายไปบริเวณข้างเคียงในระบบสืบพันธุ์ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ 

ทั้ง 2 โรคนี้บางครั้งจึงอาจพบร่วมกันจนแยกจากกันไม่ออก และมักจะเรียกรวม ๆ กันว่า อุ้งเชิงกรานอักเสบ (pelvic inflammatory disease/PID) ซึ่งครอบคลุมถึงการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก ท่อรังไข่ รังไข่ และเยื่อบุช่องท้องภายในอุ้งเชิงกราน โรคนี้บางคนอาจเป็นโดยไม่รู้ตัวเพราะไม่มีอาการ ส่วนผู้ที่มีอาการอาจมีอาการแบบเฉียบพลัน (มีไข้ ปวดท้องรุนแรง) หรือแบบเรื้อรัง ซึ่งมักพบในผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ได้ครบถ้วนตามที่แพทย์แนะนำ และอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย

โรคนี้พบบ่อยในผู้หญิงที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอาจพบในผู้หญิงที่คลอดบุตร แท้งบุตร ขูดมดลูก ใส่ห่วงคุมกำเนิด หรือชอบสวนล้างช่องคลอดเอง