1. ระบุอาการเบื้องต้น
  2. ตอบคำถาม
  3. ผลตรวจอาการ
  1. 1
  2. 2
  3. 3

มีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูกข้างเดียวหรือสองข้าง
สาเหตุที่พบบ่อย :  ไข้หวัด สาเหตุจากแรงกระแทก สาเหตุจากอากาศแห้ง/หนาวเย็น ความดันโลหิตสูง โรคเลือด

  • 1.

    เลือดกำเดาออกมาก? ใจสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืดจะเป็นลม? หรือ มีประวัติกินยาแอสไพริน/ยาต้านเกล็ดเลือด/สารกันเลือดเป็นลิ่ม?

  • 2.

    เลือดกำเดาหยุดยาก? มีจุดแดง/จ้ำเขียวตามตัว? มีเลือดออกที่อื่นร่วมด้วย ซีด? มีไข้เกิน 7 วัน? หรือ ตรวจพบตับ/ม้ามโต?

    วิธีสังเกตอาการจุดแดงจ้ำเขียว : หากใช้นิ้วมือดึงรั้งผิวหนังในบริเวณที่มีผื่นหรือจุดให้ตึง ถ้ำเป็นจุดแดงจ้ำเขียวจะไม่จางหาย แต่ถ้าจางหาย มักเป็นรอยผื่นของหัด หัดเยอรมัน ส่าไข้ จุดแดงรูปแมงมุม รอยยุงกัด หรือจุดของหลอดเลือดฝอยที่พองตัว

  • 3.

    มีเลือดสดไหลออกจากจมูกหลังศีรษะได้รับบาดเจ็บ?

  • 4.

    จมูกได้รับแรงกระทบกระแทก?

  • 5.

    สั่งน้ำมูกหรือจามแรงๆ?

  • 6.

    มีอาการเป็นหวัดคัดจมูกเป็นแรมเดือนขึ้นไป ร่วมกับ ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้?

    • น้ำหนักลด?
    • มีก้อนที่ข้างคอ?
    • เสียงแหบ?
    • หูอื้อ?

  • 7.

    น้ำมูกข้นเหลืองหรือเขียว? หรือ หายใจมีกลิ่นเหม็น?

  • 8.

    มีอาการคัดจมูก แน่นจมูกเรื้อรังเป็นเดือนๆ ขึ้นไป? หรือ มีเลือดกำเดาออกจากรูจมูกข้างเดิมอย่างซ้ำซาก?

ควรไปพบแพทย์ ภายใน 2-3 วัน เพื่อตรวจหาสาเหตุ เนื่องจากอาการของคุณข้างต้นอาจเกิดจาก ติ่งเนื้อเมือกจมูก, ผนังกั้นจมูกคด, เนื้องอกหรือมะเร็งในโพรงจมูก หรือโรคอื่น ๆ
การปฐมพยาบาล สำหรับอาการเลือดกำเดาไหล
  • นั่งตัวตรง โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อย อย่าเงยหน้า
  • ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบจมูกให้แน่น หายใจทางปาก นาน 10 นาที
  • ถ้าคลายนิ้วที่บีบจมูกแล้ว เลือดยังไม่หยุดไหล ให้ทำการบีบจมูกซ้ำอีกครั้ง นาน 10 นาที ถ้าเลือดยังไม่หยุด ควรรีบไปพบแพทย์
  • ไม่ควรนอนราบหรือเงยหน้าขึ้น เพราะอาจกลืนเลือดลงไประคายเคืองในกระเพาะอาหารทำให้อาเจียนได้ หากมีเลือดไหลลงในปากหรือลำคอ ควรคายออก อย่ากลืนลงไป
หมายเหตุ
ผลตรวจอาการเบื้องต้นดังกล่าว เป็นเพียงอาการ ภาวะ หรือโรคที่พบได้บ่อยเท่านั้น เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ควรเข้ารับการตรวจอาการโดยตรงอีกครั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานพยาบาล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ติ่งเนื้อเมือกจมูก
ติ่งเนื้อเมือกจมูก (ริดสีดวงจมูก ก็เรียก) เป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา (ไม่ใช่มะเร็ง) ที่เกิดจากเซลล์เยื่อเมือก (mucous membrane) ในโพรงจมูกและโพรงไซนัส ซึ่งมักไม่มีอันตรายร้ายแรง 
 
ถ้าเป็นติ่งขนาดเล็กจะไม่มีอาการ แต่ถ้าก้อนโตมากหรือมีจำนวนหลายก้อน ก็อาจอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก สูญเสียความรู้สึกในการรับรู้กลิ่นและรส และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
 
โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย พบบ่อยในคนอายุมากกว่า 40 ปี และในผู้ที่เป็นโรคหืด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง พบได้น้อยในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
 
ติ่งเนื้อเมือกจมูกมักพบว่าเกิดขึ้นในโพรงจมูกทั้ง 2 ข้าง และมักพบร่วมกับไซนัสอักเสบเรื้อรัง
 
 
ติ่งเนื้อเมือกจมูก
ผนังกั้นจมูกคด

ผนังที่กั้นกลางระหว่างรูจมูกทั้ง 2 ข้าง ในคนบางคนอาจมีลักษณะคดงอ ไม่ตรงเหมือนคนปกติทั่วไป อาจเป็นมาแต่กำเนิด หรือเกิดจากได้รับบาดเจ็บในภายหลังได้ โดยทั่วไปมักไม่มีอาการผิดปกติและไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด ยกเว้นในรายที่เป็นมาก อาจมีอาการคัดจมูกหรือมีโรคแทรกซ้อนได้

มะเร็งโพรงหลังจมูก

มะเร็งโพรงหลังจมูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อชาติจีน พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ประมาณ 2-3 เท่า พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบมากในช่วงอายุ 50-60 ปี