1. ระบุอาการเบื้องต้น
  2. ตอบคำถาม
  3. ผลตรวจอาการ
  1. 1
  2. 2
  3. 3

ปวดในหูหรือรอบๆ หูข้างหนึ่งหรือสองข้าง สำหรับทารกหรือเด็กเล็กที่มีอาการปวดหูและยังสื่อสารไม่ได้จะแสดงอาการร้องกวนงอแงและใช้มือจับดึงหรือขยี้ใบหู
สาเหตุที่พบบ่อย :  ขี้หูอุดตันรูหู หูชั้นนอกอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคเชื้อราในช่องหู สิ่งแปลกปลอมเข้าหู

  • 1.

    มีอาการเสียงแหบ/เจ็บคอ/หูอื้อ/คัดจมูก นานเกิน 3 สัปดาห์? มีเลือดปนน้ำมูก/เสมหะ? หรือ มีก้อนแข็งที่ข้างคอ ไม่ปวด?

  • 2.

    บวมที่ใต้หูข้างเดียวหรือ 2 ข้าง และ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยคางทูม?

  • 3.

    ปากเบี้ยวและหลับตาไม่มิดข้างหนึ่ง?

    วิธีสังเกตอาการปากเบี้ยวและปิดตาไม่มิดข้างหนึ่ง: ปากเบี้ยวข้างหนึ่ง กลืนน้ำหรือบ้วนปากจะมีน้ำไหลออกที่มุมปาก เวลายิงฟันหรือยิ้มจะเห็นมุมปากข้างนั้นตก ตาข้างเดียวกันจะปิดไม่มิดและยักคิ้วไม่ได้ (มีรูปปากเบี้ยวและปิดตาไม่มิดข้างหนึ่ง)

  • 4.

    น้ำมูกข้นเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น? หรือ ปวดและกดเจ็บตรงหน้าผาก/หัวตา/โหนกแก้ม?

  • 5.

    ปวดฟัน หรือ เหงือกอักเสบ?

  • 6.

    คันในรูหู หรือ มีขุยขาว น้ำตาล หรือดำในรูหู?

  • 7.

    เป็นหลังแคะหู?

ควรไปพบแพทย์ ภายใน 2-3 วัน เพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม เนื่องจากอาการของคุณข้างต้นอาจเกิดจาก แผลถลอกในช่องหู
หมายเหตุ
ผลตรวจอาการเบื้องต้นดังกล่าว เป็นเพียงอาการ ภาวะ หรือโรคที่พบได้บ่อยเท่านั้น เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ควรเข้ารับการตรวจอาการโดยตรงอีกครั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานพยาบาล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
แผลถลอกในช่องหู

แผลถลอกในช่องหู ในที่นี้หมายถึงช่องหูชั้นนอกเกิดแผลถลอก หากปล่อยปละละเลย อาจทำให้หูชั้นนอกเกิดการติดเชื้ออักเสบรุนแรงได้ มักพบในผู้ที่ชอบแคะหูบ่อย