1. ระบุอาการเบื้องต้น
  2. ตอบคำถาม
  3. ผลตรวจอาการ
  1. 1
  2. 2
  3. 3

มีความรู้สึกชา เสียว หรือซ่าที่แขนขา ปลายมือปลายเท้า ใบหน้า หรือบริเวณปาก หรือชาเฉพาะที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย หรือมีอาการเป็นเหน็บที่ปลายมือปลายเท้า ถ้าใช้เข็มจิ้มเบาๆ รู้สึกเจ็บน้อยลงก็แสดงว่ามีความผิดปกติของระบบประสาท แต่ถ้ารู้สึกเจ็บเช่นปกติไม่เกี่ยวกับระบบประสาท
สาเหตุที่พบบ่อย : เหน็บกิน เบาหวาน รากประสาทถูกกด กระดูกคองอกกดทับรากประสาท เส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น
หมายเหตุ : ถ้ามีอาการแขนขาอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตร่วมด้วย ดูที่ อัมพาต

  • 1.

    ชาที่แขนขาเพียงซีกใดซีกหนึ่ง?

  • 2.

    ชาปลายมือ/ปลายเท้าข้างเดียวหรือ 2 ข้าง?

  • 3.

    ปวดคอ หรือ ปวดหลัง? หรือ มีอาการชา เสียว ซ่าที่แขนหรือขาข้างหนึ่ง?

  • 4.

    ปวดแสบมือมากตอนกลางคืน? หรือ ปวดเสียวหรือชาปลายมือเวลางอข้อมือเร็วๆ?

  • 5.

    กระหายน้ำ หิวบ่อย และปัสสาวะบ่อย? มีประวัติเป็นเบาหวานมานาน? หรือ ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ หรือน้ำตาลในเลือดสูง?

  • 6.

    มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์จัดมานาน?

  • 7.

    ปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้าพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง?

ควรไปพบแพทย์ ภายใน 2-3 วัน เพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม เนื่องจากอาการของคุณข้างต้นอาจเป็นสัญญาณของ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, เอสแอลอี หรือโรคอื่น ๆ
หมายเหตุ
ผลตรวจอาการเบื้องต้นดังกล่าว เป็นเพียงอาการ ภาวะ หรือโรคที่พบได้บ่อยเท่านั้น เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ควรเข้ารับการตรวจอาการโดยตรงอีกครั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานพยาบาล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (โรคปวดข้อรูมาตอยด์ ก็เรียก) เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง พบได้ประมาณร้อยละ 1-3 ของคนทั่วไป พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 4-5 เท่า และพบมากในช่วงอายุ 20-50 ปี แต่ก็พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย

เอสแอลอี
เอสแอลอี เป็นชื่อเรียกทับศัพท์ของอักษรย่อในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีคำเต็มว่า systemic lupus erythematosus

โรคนี้มักจะมีความผิดปกติของอวัยวะได้หลายระบบ (เช่น ผิวหนัง ข้อกระดูก ไต ปอด หัวใจ เลือด สมอง เป็นต้น) พร้อม ๆ กัน และอาจมีความรุนแรงทำให้พิการหรือตายได้

โรคนี้พบประปรายได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ พบมากในช่วงอายุ 20-45 ปี และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 10 เท่า