1. ระบุอาการเบื้องต้น
  2. ตอบคำถาม
  3. ผลตรวจอาการ
  1. 1
  2. 2
  3. 3

มีอาการตัวร้อน หนาวๆ ร้อนๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว หรือตรวจพบว่ามีไข้* อาจมีอาการอ่อนเพลียเมื่อยล้า ปวดศีรษะ หรือเบื่ออาหารร่วมด้วย
สาเหตุที่พบบ่อย : ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทอนซิลอักเสบ ไข้เลือดออก โควิด-19 ปอดอักเสบ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
ถ้ามีไข้ร่วมกับมีน้ำมูกหรือไอ ดู ไข้ร่วมกับมีน้ำมูกหรือไอ
ถ้ามีไข้ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มขึ้น ดู ไข้ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มขึ้น
หมายเหตุ*
ใช้ปรอทวัดไข้ทางปาก มีค่ามากกว่า 37.2 องศาเซลเซียส (ตอนเช้า) หรือ 37.7 องศาเซลเซียส (ตอนบ่าย)
วัดไข้ทางรักแร้ มีค่ามากกว่า 36.7 องศาเซลเซียส (ตอนเช้า) หรือ 37.2 องศาเซลเซียส (ตอนบ่าย)
วัดไข้ทางหู หรือทางทวารหนัก มีค่ามากกว่า 37.7 องศาเซลเซียส (ตอนเช้า) หรือ 38.2 องศาเซลเซียส (ตอนบ่าย)
ข้อพึงระวัง ในช่วงที่มีการระบาดของโรคอุบัติใหม่ (เช่น โรคโควิด 19) หากมีอาการเป็นไข้ หรือ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือ เดินทางกลับจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาด ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

  • 1.

    ไม่ค่อยรู้สึกตัว? ปวดศีรษะรุนแรง? อาเจียนรุนแรง? หรือ ชัก?

  • 2.

    มีภาวะช็อก (มีอาการกระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น หน้าซีด ลุกนั่งหน้ามืดจะเป็นลม ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเบาและเร็ว)?

  • 3.

    แขนขาอ่อนแรง หรืออัมพาตเกิดขึ้นฉับพลัน?

  • 4.

    มีไข้นานเกิน 1 เดือน?

  • 5.

    ไอเรื้อรัง หรือ น้ำหนักลดฮวบ?

ควรไปพบแพทย์ ภายใน 2-3 วัน เพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม เนื่องจากอาการของคุณข้างต้นอาจเป็นสัญญาณของ วัณโรคปอด, เอดส์, มะเร็งปอด, เมลิออยโดซิส หรือโรคอื่น ๆ
หมายเหตุ
ผลตรวจอาการเบื้องต้นดังกล่าว เป็นเพียงอาการ ภาวะ หรือโรคที่พบได้บ่อยเท่านั้น เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ควรเข้ารับการตรวจอาการโดยตรงอีกครั้งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานพยาบาล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
วัณโรคปอด
วัณโรคปอด หรือ ทีบี (TB ซึ่งย่อมาจาก tuberculosis) หรือโบราณเรียกว่าฝีในท้อง เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังของปอดที่สามารถแพร่ให้คนที่อยู่ใกล้ชิดได้ จัดว่าเป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง พบมากในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ มักพบในคนที่ฐานะยากจน หรืออยู่กันอย่างแออัด
 
ในปัจจุบัน พบว่าวัณโรคกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีความร้ายแรงมากขึ้น และมีการดื้อยามากขึ้น
เอดส์
โรคเอดส์/กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง (acquired immunodeficiency syndrome/AIDS) เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสเอชไอวี (human immunodeficiency virus/HIV) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม retrovirus เชื้อนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปเจริญอยู่ในเม็ดเลือดขาวที่มีชื่อว่า "CD4 lymphocyte" (นิยมเรียกย่อ ๆ ว่า CD4)* และทำลายเม็ดเลือดขาวชนิดนี้ จนในที่สุดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง เป็นผลทำให้เกิดมะเร็งบางชนิด และโรคติดเชื้อฉวยโอกาส (opportunistic infection ซึ่งเป็นการติดเชื้อรุนแรงจากเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งที่เป็นชนิดที่ก่อโรคในคนปกติทั่วไป และชนิดที่ปกติไม่ทำอันตรายต่อคนที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง)
 
*มีชื่อเรียกอื่น ได้แก่ T4-cell, T4-helper cells, T4-lymphocyte และ CD4 cell มีหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
มะเร็งปอด

มะเร็งปอด พบมากเป็นอันดับที่ 2 ของมะเร็งในผู้ชาย และอันดับที่ 4 ของมะเร็งในผู้หญิง พบมากในช่วงอายุ 50-75 ปี มะเร็งปอดมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์เยื่อบุ (squamous cell carcinoma) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดและเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์ต่อมเมือก (adenocarcinoma) ซึ่งพบในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และชนิด small cell carcinoma ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ พบได้น้อยกว่าชนิดอื่น แต่มีความร้ายแรงสามารถแพร่กระจายเร็ว

เมลิออยโดซิส

เมลิออยโดซิส เป็นโรคติดเชื้อรุนแรงที่พบได้ทั้งในคนและสัตว์ พบว่าประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยโรคนี้มากที่สุดในโลก และคาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้นปีละ 2,000-3,000 ราย พบได้ทุกภาคของประเทศ แต่พบมากที่สุดทางภาคอีสาน

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 40-60 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.4 เท่า

ผู้ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อและเป็นโรคนี้ ได้แก่ เกษตรกร และผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการสัมผัสดินและน้ำ (เช่น ทหารที่ฝึกซ้อมในภาคสนาม หรือในการทำสงคราม)

ผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคนี้มักมีโรคประจำตัวร่วมด้วย โดยเฉพาะเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง รวมทั้งผู้ที่มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือใช้สตีรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ

โรคนี้พบได้ตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝน (เดือนมิถุนายนถึงกันยายน)

โรคนี้อาจแสดงอาการได้หลายลักษณะ ทั้งเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง บางครั้งอาจเกิดการติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการก็ได้ (ซึ่งเชื้อจะหลบซ่อนอยู่ในร่างกาย ต่อมาภายหลังเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะมีอาการเกิดขึ้นได้)

นอกจากนี้ยังอาจมีอาการคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ (รวมทั้งโรคติดเชื้อร้ายแรง เช่น สแตฟีโลค็อกคัสออเรียส) วัณโรค และมะเร็งต่าง ๆ จึงได้ชื่อว่า ยอดนักเลียนแบบ