ลักษณะที่พบบ่อย คือ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้และปวดบวมแดงร้อนตามข้อใหญ่ ๆ เช่น ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ข้อศอก ซึ่งมักจะเป็นมากกว่าหนึ่งข้อ โดยจะไม่ปวดขึ้นพร้อมกัน แต่จะปวดที่ข้อหนึ่งก่อน แล้วจึงย้ายไปปวดที่อีกข้อหนึ่ง แต่ละข้อจะมีอาการอักเสบอยู่นาน 5-10 วัน บางรายอาจเป็นเรื้อรังถึงกับลุกเดินไม่ได้เป็นแรมเดือน อาการปวดบวมตามข้อมักจะหายได้เองแม้ไม่ได้รักษา ข้อที่อักเสบจะกลับเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยความพิการแต่อย่างใด
โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดร่วมด้วย
ผู้ป่วยมักมีอาการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย ถ้าเป็นไม่มากอาจไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจน ถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น หอบ นอนราบไม่ได้ เนื่องจากภาวะหัวใจวาย
ผู้ป่วยอาจมีประวัติเป็นไข้เจ็บคอนำมาก่อนประมาณ 1-4 สัปดาห์ แต่บางรายอาจไม่มีประวัติดังกล่าวก็ได้
นอกจากนี้ บางรายอาจมีอาการผื่นแดงขึ้นแผ่ออกโดยรอบ เป็นวงขอบแดง ตรงกลางขาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3 ซม. เรียกว่า อีริทีมามาร์จินาตุม (erythema marginatum) ไม่เจ็บ ไม่คัน และจางหายได้เองอย่างรวดเร็ว (บางครั้งอาจหายภายในวันเดียว) มักขึ้นตรงบริเวณก้นหรือแขนขาส่วนต้น ถ้าพบมักแสดงว่ามีการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย
บางรายอาจมีตุ่มขึ้นอยู่ใต้ผิวหนัง (subcutaneous nodules) ตรงบริเวณข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ข้อศอก ไม่เจ็บ จับให้เคลื่อนอยู่ใต้ผิวหนังได้ อาจมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว หรือใหญ่ขนาด 2 ซม. ตุ่มนี้จะค่อย ๆ ยุบได้เอง กินเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าพบมักแสดงว่ามีการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย
บางรายอาจมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแขนขาหรือส่วนอื่น ๆ โดยที่ผู้ป่วยไม่สามารถบังคับได้ เช่น แขนขาขยุกขยิก หรือปัดแกว่งโดยไม่ได้ตั้งใจ บางรายอาจพูดไม่ชัด เขียนหนังสือ หรือหยิบของไม่ถนัด เป็นต้น อาการแบบนี้เรียกว่า โคเรีย (chorea) เกิดจากมีความผิดปกติในสมองร่วมด้วย อาจพบเป็นอาการโดด ๆ หรือร่วมกับอาการอื่น ๆ ก็ได้ มักมีอาการหลังเจ็บคอ 1-6 เดือน (เกิดช้ากว่าอาการปวดข้อและอื่น ๆ) ถ้าพบมักแสดงว่ามีการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย